วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

การเขียนข้อความวัดพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย

การเขียนข้อความวัดพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย

                เครื่องมือที่ใช้วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในระดับประถมศึกษาระดับมัธยมศึกษา  หรือแม้แต่ในระดับอุดมศึกษา  ส่วนใหญ่จะเป็นแบบทดสอบที่มีข้อคำถามที่มุ่งวัดพฤติกรรมด้านความรู้ ความคิด  หรือพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย  (Cognitive  Domain)   อาจจะมีบางกลุ่มประสบการณ์หรือบางรายวิชาที่แบบทดสอบที่ใช้จะมีลักษณะเป็นงานระบุให้ปฏิบัติงาน  หรือผลิต  หรือสร้าง  ซึ่งเป็นลักษณะที่มุ่งวัดพฤติกรรมด้านทักษะพิสัย  (Psychomotor Domain)  ส่วนพฤติกรรมด้านจิตพิสัย  (Affective  Domain)  มีบ้างเล็กน้อยที่ใช้แบบทดสอบ  ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบทดสอบสถานการณ์ที่สมมุติสถานการณ์ขึ้นมาเพื่อเร้าถามให้ผู้ตอบแสดงความรู้สึกออกมาโดยทั่วไปแล้วพฤติกรรมด้านจิตพิสัยนี้  มีเครื่องมือวัดผลชนิดอื่น ๆ ที่วัดได้ดีไม่แพ้แบบทดสอบเช่นแบบสำรวจแบบตรวจสอบรายการ  แบบจัดอันดับคุณภาพการสังเกตเป็นต้น  จากที่กล่าวข้างต้น จะเห็นว่า  แบบทดสอบซึ่งเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งของการวัดผลการศึกษานั้นสามารถดัดแปลงมาใช้วัดพฤติกรรมที่แตกต่างกันได้  ไม่มีข้อจำกัดว่า  แบบทดสอบจะต้องใช้วัดพฤติกรรมด้านความรู้    ความคิดอย่างเดียวใบงานใช้วัดด้านการปฏิบัติและแบบจัดอันดับคุณภาพใช้วัดความรู้สึกเท่านั้นแท้จริงแล้วเครื่องมือที่ใช้นั้นสามารถวัดพฤติกรรมด้านใด  ขึ้นอยู่กับว่า ข้อคำถาม  (Item)  ที่เขียนขึ้นมานั้นมุ่งวัด  หรือเร้าให้ผู้ตอบแสดงพฤติกรรมอะไรออกมาเป็นประเด็นสำคัญ

                การศึกษาในหัวข้อนี้  จะกล่าวถึงการเขียนข้อคำถามที่วัดพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัยตาม การแบ่งลำดับขั้นพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัยที่  บลูม (Bloom)  และคณะจำแนกไว้  ดังนี้ (ชวาล      แพรัตกุล,  2518  :  7)

1.00  ความรู้ความจำ    
1.10       ความรู้ในเนื้อเรื่อง
1.11  ความรู้เกี่ยวกับศัพท์และนิยาม
1.12  ความรู้เกี่ยวกับกฎและความจริงความสำคัญ
1.20       ความรู้ในวิธีดำเนินการ
1.21  ความรู้เกี่ยวกับระเบียบแบบแผน
1.22  ความรู้เกี่ยวกับลำดับขั้นและแนวโน้ม
1.23      ความรู้เกี่ยวกับการจัดประเภท
1.24      ความรู้เกี่ยวกับเกณฑ์
1.25      ความรู้เกี่ยวกับวิธีการ                                     
1.30       ความรู้รวบยอด  หรือความรู้ในสาระสำคัญ
1.31  ความรู้เกี่ยวกับหลักวิชาและการขยาย
1.32  ความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีและโครงสร้าง
2.00  ความเข้าใจ
1.10       การแปลความ
2.20       การตีความ
2.30       การขยายความ
3.00  การนำไปใช้
4.00  การวิเคราะห์
4.10       วิเคราะห์ความสำคัญ
4.20       วิเคราะห์ความสัมพันธ์
4.30       วิเคราะห์หลักการ
5.00  การสังเคราะห์
5.10       สังเคราะห์ข้อความ
5.20       สังเคราะห์แผนงาน
5.30       สังเคราะห์ความสัมพันธ์
 6.00  การประเมินค่า
6.10       ประเมินค่าโดยอาศัยเกณฑ์ภายใน
6.20       ประเมินค่าโดยอาศัยเกณฑ์ภายนอก

พฤติกรรมทั้ง  ด้านนี้เรียงลำดับพฤติกรรมจากขั้นพื้นฐานที่เป็นความสามารถทางสมองในการจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้จากบทเรียนหรอจากครูผู้สอน  เริ่มจากการจำชนิดแรก  คือการจำเนื้อเรื่องซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับคำศัพท์  นิยาม  กฎ  ข้อเท็จจริงและความสำคัญต่าง ๆ ของเนื้อเรื่อง  การจำชนิดที่สอง  คือการจำวิธีดำเนินการ  ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยเป็นการจำระเบียบแบบแผน  ลำดับขั้นและแนวโน้มการจัดประเภท  เกณฑ์  วิธีการต่าง ๆ การจำชนิดสุดท้าย ก็คือ  การจำมโนทัศน์หรือความรู้รวบยอด  (Concept)  หรือจำสาระสำคัญของเรื่องราวที่เรียนรู้มา  ได้แก่  หลักวิชาโครงสร้างและทฤษฎีของเรื่องราวที่เรียนรู้มานั้น  ความสามารถทางสมองใน         การจดจำรายละเอียดต่าง  ๆ  เหล่านี้  จะเป็นปัจจัยเบื่องต้นของความสามารถทางสมองในการคิดพิจารณาในลำดับขั้นที่สูงขึ้นไปอีก  เช่น  ความสามารถในการทำความเข้าใจ  ความสามารถใน การนำความรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหาความสามารถในการวิเคราะห์วิจารณ์  แยกแยะส่วนต่าง ๆ ของเรื่องราวความสามารถในการสร้างสรรค์สังเคราะห์งานใหม่ขึ้นมา จนถึงความสามารถใน การพิจารณาสรุปตัดสินใจ  ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดของความสามารถทางสมอง  การเขียนข้อคำถาม  วัดพฤติกรรมทางสมองให้ได้ดีนั้น  ผู้เขียนข้อสอบควรมีความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมแต่ละด้านว่ามีลักษณะที่แสดงออกมาอย่างไรบ้าง  จะสังเกตและวัดได้อย่างไร  รูปแบบคำถาม  หรือข้อคำถามควรมีลักษณะอย่างไร  ซึ่งนักวัดผลการศึกษาหลายท่านได้ให้รายละเอียดและเสนอแนะวิธีเขียน ข้อคำถามวัดพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย  ดังนี้  (ชวาล   แพรัตกุล  มปป    ล้วน  สายยศ  และอังคณา  สายยศ,  2523  ,   เตือนใจ  เกตุษา,2526 : 60-104,  สุนันท์  ศลโกศล,2525 : 173-232)


  
      

ตัวอย่างลักษณะพฤติกรรมที่สังเกตได้  ของพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย


พฤติกรรม
ลักษณะพฤติกรรมที่สังเกตได้
1.00  ความรู้ - ความจำ
1.10       ความรู้ในเนื้อเรื่อง
     1.11  ศัพท์  และนิยาม
     1.12  กฎ  และความจริงความสำคัญ




1.20      ความรู้ในวิธีดำเนินการ
     1.21  ระเบียบแบบแผน

     1.22  ลำดับขั้น  และแนวโน้ม



1.23       การจัดประเภท


1.24       เกณฑ์

1.25  วิธีการ
1.30       ความรู้รวบยอด
      1.31  หลักวิชา  และการขยาย

1.31            หลักวิชา  และการขาย  (ต่อ)

1.32  ทฤษฎี  และโครงสร้าง


-                   บอกชื่อ  คำแปล  ความหมาย
-                   บอกสูตร  กฎ  หลักการ  ทฤษฎี
-                   บอกรายละเอียดเนื้อเรื่อง  ขนาด  จำนวน            สถานที่  เวลา
-                   บอกคุณสมบัติ  วัตถุประสงค์  สาเหตุและผลที่เกิดตามมา  ประโยชน์  คุณและโทษ  สิทธิหน้าที่

-                   บอกวิธีประพฤติปฏิบัติที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม  และประเพณีนิยม
-                   บอกลำดับของความต่อเนื่องกันของวิธีการ  หรือเรื่องราว
-                   บอกการคาดหมายเหตุการณ์จากเรื่องที่ปรากฏ ให้เห็น
-                   บอกชนิด  ประเภท  ของสิ่งของ  หรือเรื่องราว
-                   ระบุชนิด  ประเภทของสิ่งของ  หรือเรื่องราว            ว่าเป็นพวกเดียวกัน  หรือต่างพวกกัน
-                   บอกชื่อหลัก  หรือตัวเกณฑ์  ที่นำมาใช้พิจารณาว่า  ดี ไม่ดี  ถูก ผิด  ควร ไม่ควร  ฯ
-                   บอกวิธีการ

-                   บอกสาระสำคัญของเรื่องนั้น ๆ
-    บอกตัวร่วม  (ลักษณะที่คล้ายกันของเรื่องนั้น ๆ
-                   บอกความเกี่ยวโยงระหว่างสาระสำคัญของเรื่องนั้น ๆ กับเหตุการณ์อื่น ๆ
บอกความเหมือน  ความต่าง  หรือความสัมพันธ์ของสูตร  กฎ  ทฤษฎี  คติ  ลัทธิ  และความเห็นต่าง ฯ  ที่มีต่อเรื่องนั้น

2.00  ความเข้าใจ
2.10       การแปลความ









2.20       การตีความ




2.30      การขยายความ


-                   แปลความหมายของคำ  กลุ่มคำ  หรือข้อความภาพ  สูตร  กฎ  พฤติกรรม
-                   ยกตัวอย่างคำ  หรือข้อความที่ใกล้เคียงกับเรื่องที่เรียนรู้
-                   เปรียบเปรย  เปรียบเทียบเรื่องที่เรียนรู้
-                   ถอดความจาก  โคลง  ฉันท์  กาพย์  กลอน  เป็นร้อยแก้ว
-                   ถอดความต่างภาษาให้เป็นภาษาใหม่  ในความหมายใหม่ที่มีความหมายสมมูลย์กัน  (ไม่ใช่การแปลงตรงตัวเหมือนการแปลคำศัพท์)
-                   สรุปความหมายของเรื่องราวในแง่มุมใหม่
-                   สรุปความหมายของรูปภาพ  กราฟ  การทดลองตัวเลข
-                   สรุปรวมความหมายที่ได้จากการแปลความ(2.10)  หลาย ๆ ส่วนของเรื่องราว
-                   คาดคะเน  พยากรณ์  หรือนุมานอนาคต  ในระหว่าง  และอดีต  ของเรื่องราว  เหตุการณ์ที่กำหนด
3.00  การนำไปใช้
-                   ยกตัวอย่างที่สอดคล้องกับหลักวิชา
-                   ให้คำอธิบายถึงขอบเขต  เงื่อนไข  และข้อยกเว้นของหลักวิชา  และการปฏิบัติ
-                   อธิบายถึงหลักวิชาโดยอาศัยหลักของเหตุผล  กฎ  สูตร  หลักการ
-                   แก้ปัญหาสถานการณ์ต่าง ๆ  ตามหลักวิชา
-                   เสนอวิธีปฏิบัติ  หรือให้เหตุผลของการปฏิบัติ
4.00  การวิเคราะห์
4.10       วิเคราะห์ความสำคัญ





4.20      วิเคราะห์ความสัมพันธ์

4.30  วิเคราะห์หลักการ

-                   จำแนกแจกแจง  ชนิด  ลักษณะ  ประเภท  ตามกฎและหลักการใหม่ที่กำหนด
-                   หาความสำคัญของเรื่องราว  เหตุการณ์  วัตถุประสงค์  หรือผลลัพธ์
-                   หาเจตนา  และความคิดที่แฝงอยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์  เรื่องราว
-                   หาความเกี่ยวข้องระหว่างคุณลักษณะ สำคัญ ๆ  ของเรื่องราว  และสิ่งต่าง ๆ
-                   หาโครงสร้างของวัตถุ  ว่ามีลักษณะการรวมตัวของส่วนประกอบย่อยอย่างไร
-                   หาโครงร่าง  เค้าเงื่อน  ของเหตุการณ์  พฤติกรรม  ว่ามีการจัดระบบ  ระเบียบอย่างไร
5.00  การสังเคราะห์
5.10       สังเคราะห์ข้อความ





5.20      สังเคราะห์ความสัมพันธ์



5.30  สังเคราะห์ความสัมพันธ์

-                   วิจารณ์  อภิปราย  แสดงปาฐกถา
-                   เขียนบทความ  จดหมาย  แต่งคำประพันธ์
-                   แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องราวที่กำหนดโดยการพูด  การเขียน
-                   วาดภาพตามคำขวัญ  เพลง
-                   แสดงท่าทางการกระทำเพื่อสื่อความหมาย
-                   กำหนดแนวทาง  และขั้นตอนการปฏิบัติงาน
-                   วางโครงร่างการดำเนินงาน  วางแผนงาน  กำหนดนโยบาย
-                   สร้างสมมติฐานแสดงความสัมพันธ์ของเรื่องราว
-                   เสนอแนวคิดใหม่ ๆ ปรับปรุง  เปลี่ยนแปลง  รูปแบบ  โรงสร้าง  ให้แปลกจากเดิม
-                   ลงสรุปเรื่องราวเดิมในรูปแบบใหม่ตามเงื่อนไขที่กำหนด
6.00  การประเมินค่า
6.10       การประเมินโดยอาศัยเกณฑ์ภายใน











6.20  การประเมินโดยอาศัยเกณฑ์ภายนอก

          ประเมิน  ตัดสิน  โดยอาศัยหลักเกณฑ์  เท่าที่ ปรากฏในเรื่องราวได้แก่
-                   ตัดสินความเที่ยงตรงของเรื่องว่า  ควร -            ไม่ควร  เหมาะสม ไม่เหมาะสม
-                   ตัดสินความสอดคล้องเป็นอันเดียวกันของเรื่องว่าสนับสนุน ขัดแย้งกัน
-                   ตัดสินความสมบูรณ์ถูกต้องของข้อมูลว่า  เชื่อถือได้ ไม่น่าเชื่อถือ  ชัดเจน -             คลุมเครือ  น่ายอมรับ ไม่น่ายอมรับ
-                   ตัดสินประสิทธิภาพของวิธีการปฏิบัติว่า           ดี เลว   สำเร็จ ไม่สำเร็จ  ควรใช้-ไม่ควรใช้
          ประเมินตัดสินโดยอาศัยหลักเกณฑ์อื่น ๆ ที่อยู่ภายนอกเรื่องราว  ได้แก่
-                   ตัดสินตามเกณฑ์ภายนอกที่กำหนดให้
-                   ประเมินโดยการเปรียบเทียบกับเรื่องที่กำหนดประเมินกับมาตรฐานใดมาตรฐานหนึ่ง  เช่น  ประเพณี  และวัฒนธรรมไทย
-                   ประเมินข้อเด่น  และข้อด้อย  ทั้งสองด้านของเรื่องราวว่า  ดี  นั้นดีอย่างไร  และไม่ดีนั้น  ไม่ดีอย่างไร
                ลักษณะพฤติกรรมที่สังเกตได้  ดังกล่าวข้างต้นนี้  สามารถนำไปเขียนเป็นพฤติกรรมที่คาดหวังในจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม  (BO)  ได้
 
  
                1.00  ความรู้  ความจำ  (Knowledge)  หมายถึง  ความสามารถในการระลึกเรื่องราวประสบการณ์หรือสิ่งที่เคยเรียนมาแล้วได้  คำถามที่วัดความจำ  เป็นการสอบวัดเกี่ยวกับเรื่องราวที่ผู้ตอบเคยเรียนรู้ เคยมีประสบการณ์  หรือเคยรู้เห็นมาก่อน เช่น ถามคำศัพท์ นิยาม ถามกฎ ข้อเท็จจริงในเนื้อหา เหตุการณ์ หรือแม้แต่ถามหลักวิชา ทฤษฎี โครงสร้าง ที่เป็นหัวใจของเรื่อง ซึ่งครูเคยสอนมาแล้ว เมื่อนำมาออกเป็นข้อสอบ ก็ถือว่าเป็นคำถามที่วัดพฤติกรรมด้านความรู้ ความจำ ทั้งสิ้น ต่างกันเพียงแต่เป็นความความรู้ ความจำ ประเภทใด ชนิดใด 

-                   ข้อใดเป็นอุปกรณ์แสดงผลทั้งหมด
ก.      คีย์บอร์ด จอภาพ
ข.      เมาส์ คีย์บอร์ด
ค.      จอภาพ ลำโพง
ง.       เมาส์ ซีพียู

2.00  ความเข้าใจ  (Comprehention)  หมายถึง  ความสามารถในการแปลความ  ตีความ  และขยายความจากสื่อความหมายต่าง ๆ ได้  หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ  พฤติกรรมด้านความเข้าใจเป็นความสามารถของสมองในการดัดแปลงแก้ไขสิ่งยากมากให้เป็นสิ่งง่าย  หรือดัดแปลงแก้ไข สิ่งที่ซับซ้อนให้เป็นสิ่งธรรมดา  ตัวอย่างเช่นการอ่านพฤติกรรมของสัตว์  การรู้ความต้องการของคนใบ้ที่ใช้ภาษามือ  หรือการทายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา  หรือที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้  พฤติกรรมเหล่านี้จัดอยู่ในเรื่องความเข้าใจทั้งสิ้น  ความเข้าใจจึงแตกต่างจากความรู้-ความจำอยู่บ้าง  (ล้วน  สายยศ  และอังคณา  สายยศ  2523)  พฤติกรรมด้านความเข้าใจ 

 -                   คำในข้อใดกล่าวถึงข้อแตกต่างของแผนCD-ROMและแผ่นDVDได้ถูกต้อง
ก.      แผ่นDVDบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้แต่แผ่นCD-ROMบันทึกไม่ได้
ข.      แผ่นDVDเก็บข้อมูลได้มากกว่าแผ่นCD-ROM
ค.      แผ่นDVDมีราคาแผงกว่าแผ่นCD-ROM มาก
ง.       แผ่นDVDมีขนาดใหญ่กว่าแผ่นCD-ROM

3.  การนำไปใช้  (Application)  หมายถึงความสามารถในการนำเอาความรู้-ความจำ ที่เคยเรียนมา  และความเข้าใจในเรื่องราวนั้น ๆ มาใช้แก้ปัญหาที่แปลก  แตกต่างไปจากที่เคยเรียนรู้มาก่อน  ถ้าเป็นการแก้ปัญหาที่เคยเรียนรู้มาก่อนจะถือว่าเป็นแค่การจำไปใช้เท่านั้น  คำถาม วัดความสามารถในการนำไปใช้  
               
-                   อุปกรณ์ชนิดใดที่ใช้เปิดเอกสารแก้ไขและปลิ้นเอกสารแทนคอมพิวเตอร์ได้
ก.      โสมาร์ทโฟน
ข.      ปลิ้นเตอร์
ค.      โทรทัศน์
ง.       เครื่อง Fax

4.00  การวิเคราะห์  (Analysis)  หมายถึง  ความสามารถในการแยกแยะส่วนย่อย ๆ ของ เหตุการณ์  เรื่องราวหรือเนื้อหาต่าง ๆ ว่าประกอบด้วยอะไร  เพื่อค้นหาความจริงต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ภายในเรื่องราวนั้นความจริงที่ซ่อนอยู่ภายในได้แก่  องค์ประกอบที่สำคัญ  ความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันระหว่างองค์ประกอบ  และตังร่วมที่เป็นหลักการขององค์ประกอบทั้งหมดในเรื่องราวนั้น 

-                   อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในข้อใดที่มีความสำคัญเรื่องการแสดงผลภาพ
ก.      Ram
ข.      CPU และ HDD
ค.      HDD และ Rom
ง.       Graphic Card

           5.00  การสังเคราะห์  (Synthesis)  หมายถึง  ความสามารถในการรวมสิ่งต่าง  ๆ  ตั้งแต่สองสิ่งขึ้นไปเข้าด้วยกัน  เพื่อให้กลายเป็นสิ่งสำเร็จรูปชิ้นใหม่ที่มีคุณลักษณะบางอย่างแปลกพิสดารไปจากส่วนประกอบอย่างย่อยของเดิม  การสังเคราะห์เป็นความสามารถด้านความคิดสร้างสรรค์หรือความคิดริเริ่มสิ่แปลกใหม่  
                 
-                   เป็นหน่วยที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ คิดคำนวณ และเปรียบเทียบข้อมูลเพื่อตัดสินใจ คำกล่าวนี้หมายถึงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชนิดใด
ก.      เมาส์
ข.      CPU
ค.      จอภาพ
ง.       คีย์บอร์ด

6.00  การประเมินค่า  (Evaluation)  หมายถึงความสามารถในการพิจารณาตัดสินเกี่ยวกับคุณค่าโดยอาศัยการเปรียบเทียบกับเกณฑ์หรือมาตรฐานที่กำหนดลักษณะพฤติกรรมขั้นการประเมินค่าที่ถูกต้องนั้นผู้ที่ประเมินค่าสิ่งใด ๆ จะต้องอาศัยข้อมูลรายละเอียดที่เรียนรู้มา (ขั้นความรู้-ความจำมาทำความกระจ่างให้รู้ชัด  (ขั้นเข้าใจ-นำไปใช้แล้วคิดพิจารณา   (ขั้นวิเคราะห์-สังเคราะห์)   เปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานเพื่อการตัดสินใจในที่สุดการตัดสินใจที่ใช้สติ-ปัญญา  พินิจพิจารณาเช่นนี้จึงถือว่าเป็นการประเมินค่า  ส่วนการตัดสินใจโดยไม่คิดพิจารณาเสียก่อน  จัดเป็นความคิดเห็น  ความรู้สึก  ซึ่งเป็นระดับที่ใช้สติปัญญาน้อยกว่า  (ล้วน  สายยศ  และอังคณา  สายยศ,2530)  การประเมินค่า 
-                   การเลือกใช้ชอฟต์แวรให้เหมาะสมกับงาน ควรพิจารณาอย่างไร
ก.      พิจารจากความเหมาะสมของลักษณะงานกับชอฟต์แวรที่เลือก
ข.      พิจารณาจากความสามารถของโปรแกรม
ค.      พิจารณาบริการหลังการขาย
ง.       พิจารณาจากราคาต่ำที่สุด


แหล่งที่มา
สุมาลี สมพงษ์ และ เพลินพิศ  คูณคำ (2539) เอกสารประกอบการสอนวิชา การประเมินผลการเรียน
                ภาควิชาทดสอบและวิจัยการศึกษา คณะครุศาสตร์ สถาบันราชภัฏสกลนคร.

ข้อมูลเพิ่มเติม
https://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=1&cad=rja&uact=8&ved=0CBsQFjAAahUKEwjHnqfU2cvIAhUJco4KHcBvAJo&url=http%3A%2F%2Fwww.lamptech.ac.th%2Fwebprg%2Ftecherlamptech%2Fnews%2FCognitive%2520Question.doc&usg=AFQjCNHitaW0YOGoxJRdlaEuxhhUhz2axA&sig2=iipzNQEhaLG2xdKxmR9gAg
                

1 ความคิดเห็น:

  1. Casinos Near Harrah's Casino, NV - Mapyro
    › casinos-near-harrahs-casino › casinos-near-harrahs-casino Located on 의왕 출장안마 the first 광양 출장안마 floor of Harrah's Resort Atlantic City, this 대전광역 출장안마 hotel is adjacent to 통영 출장샵 Harrah's Atlantic City Casino. The 태백 출장안마 hotel features 2 outdoor pools,

    ตอบลบ